คณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ร่วมส่งเสริมวัฒนธรรมและการพัฒนาท้องถิ่น ในงาน “วัฒนธรรมวิถีเกษตรไทย ๑ อำเภอ ๑ ลานสร้างสรรค์” จังหวัดปทุมธานี
เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน 2568 สาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษา ภาควิชานาฏดุริยางคศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้นำการแสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์ ได้แก่ ชุดการแสดง “เสี่ยวไหม” และ “ชุดเลิศรสล้ำ ส้มตำไทย” เข้าร่วมแสดงในงาน “วัฒนธรรมวิถีเกษตรไทย ๑ อำเภอ ๑ ลานสร้างสรรค์” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 23 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00 – 17.00 น. ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
การจัดงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี กับ สำนักงานพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมด้วยเครือข่ายด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมในพื้นที่ โดยมี นายคมสัน ญาณวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด และมีผู้บริหารหน่วยงานราชการ แขกผู้มีเกียรติ และประชาชนร่วมงานอย่างคับคั่ง
การเข้าร่วมกิจกรรมของสาขาวิชานาฏศิลป์ศึกษาในครั้งนี้ มุ่งเน้นการ ส่งเสริมการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ร่วมสมัยที่สอดแทรกองค์ความรู้เรื่องอาหาร วิถีชีวิต และการเกษตรของไทยอย่างมีศิลปะ อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง ในการบูรณาการองค์ความรู้ด้านศิลปกรรมกับการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
⸻
การเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
• SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ
การแสดงของนักศึกษานาฏศิลป์เป็นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เสริมสร้างการเรียนรู้อย่างรอบด้านและยั่งยืน
• SDG 11: เมืองและถิ่นฐานมนุษย์ที่ยั่งยืน
การส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในท้องถิ่นและการเชื่อมโยงกับวิถีเกษตรไทย เป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมร่วมกับการพัฒนาท้องถิ่น
• SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
การบูรณาการความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ และชุมชน สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือแบบมีส่วนร่วมที่เข้มแข็ง
⸻
งานในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการใช้ศิลปวัฒนธรรมเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยคณะศิลปกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา สร้างสรรค์ผลงานที่ตอบโจทย์สังคม พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืนต่อไป